เครื่องพิมพ์วันหมดอายุไม่ได้มีประโยชน์แค่ในการบอกวันที่ แต่ยังสามารถสร้างมูลค่าและผลประกอบการให้กับสินค้านั้การเลือกเครื่องพิมพ์วันหมดอายุให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์นั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดต้นทุนในเวลาเดียวกัน ปัจจัยในการเลือกเครื่องพิมพ์วันที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องไหนพิมพ์เร็วที่สุด แต่อยู่ตรงที่เครื่องไหนตอบโจทย์การใช้งานต่อสินค้าคุณได้มากที่สุด โดยจะคำนึงถึง 3 ปัจจัยหลัก คือ
- กำลังการผลิต
ตามเป้าหมายแล้วสินค้าของคุณจะผลิตกี่ชิ้นต่อเดือน เพื่อจะนำไปวิเคราะห์ว่าเครื่องพิมพ์วันหมดอายุสามารถผลิตออกมาได้ตามจำนวนที่กำหนดหรือไม่ อีกทั้งยังสามารถช่วยลดต้นทุนได้เนื่องจากยิ่งผลิตมากยิ่งสามารถคืนทุนได้ไว
- งบในการเลือกเครื่องพิมพ์
การที่คุณตั้งงบไว้ก่อนเพื่อหาเครื่องพิมพ์วันหมดอายุที่เหมาะกับงานของคุณจะช่วยตัดตัวเลือกลงมาได้ เพราะเครื่องพิมพ์วันที่มีราคาตั้งแต่หลักหมื่นถึงล้าน ซึ่งแต่ละเครื่องจะมีจุดเด่นและประสิทธิภาพที่สามารถตอบสนองการผลิตให้คุณได้ตามคาด
- ขนาดของโรงงาน
ในแต่ละธุรกิจก็จะมีขนาดที่แตกต่างกันไป การเลือกเครื่องพิมพ์ที่มีกำลังไลน์ผลิตที่เหมาะสมจะทำให้เกิดประสิทธิภาพแก่สินค้า เช่น
ในส่วนของโรงงานใหญ่ จะมีวิศวกรที่สามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นถ้าเครื่องพิมพ์วันที่เกิดขัดข้องเพื่อให้ไลน์ผลิตสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนมากโรงงานขนาดใหญ่จะไม่ได้มีแค่เครื่องเดียว เพราะแต่ละไลน์ผลิตมีจุดประสงค์แตกต่างกัน ยกตัวอย่าง เช่น โรงงานผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จำเป็นต้องมีไลน์ผลิตดังนี้
– Hot Stamp พิมพ์วันที่ผลิตลงบนซอง
– Inkjet พิมพ์ลงบนซองที่ผลิตเยอะกว่า
– DOD พิมพ์ข้างกล่องหลังด้วยต้นทุนที่ถูก และพิมพ์จำนวนไม่มาก
– TIJ พิมพ์ Barcode ข้างกล่องลังเพื่อเช็คล็อตการผลิต
ปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวประกอบการตัดสินใจที่จะทำให้คุณหาเครื่องพิมพ์วันหมดอายุที่เหมาะมากที่สุด เพราะฉะนั้นอย่าลืมนึกถึงคุณสมบัติของเครื่องพิมพ์วันที่ ที่ตรงกับการใช้งานของสินค้าเป็นหลัก