ในอุตสาหกรรมการผลิต ความรวดเร็ว ความแม่นยำ และต้นทุนที่คุ้มค่า คือปัจจัยสำคัญที่ผู้ประกอบการไม่อาจมองข้าม หนึ่งในขั้นตอนที่ดูเหมือนเล็กแต่มีความหมายมากคือการพิมพ์วันที่ผลิต วันหมดอายุ เลขล็อตสินค้า หรือแม้แต่บาร์โค้ดลงบนบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการใช้ประกอบการตัดสินใจและตรวจสอบมาตรฐานสินค้า ที่ผ่านมา เครื่องพิมพ์วันที่แบบหมึก เช่น Inkjet, CIJ หรือ TTO ถือเป็นเทคโนโลยีหลักที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีเลเซอร์มาร์คกิ้ง (Laser Marking) ได้กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น ด้วยคุณสมบัติที่สามารถพิมพ์ได้คมชัด ทนทาน ประหยัดต้นทุนหมึก และแทบไม่ต้องกังวลเรื่องการบำรุงรักษา จนหลายธุรกิจเริ่มหันมาพิจารณาเปลี่ยนมาใช้เลเซอร์แทน
คำถามคือ คุณพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงแล้วหรือยัง? มาดูกันว่า 7 สัญญาณต่อไปนี้ บ่งบอกว่าธุรกิจของคุณควรเปลี่ยนมาใช้ เครื่องพิมพ์เลเซอร์ มีอะไรบ้าง
1. ค่าใช้จ่ายหมึกพิมพ์และค่าบำรุงรักษาสูงเกินไป
หากคุณสังเกตว่าค่าใช้จ่ายหมึกพิมพ์ต่อเดือนสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในสายการผลิตที่มีปริมาณมาก เครื่องพิมพ์วันที่แบบหมึกอาจกำลังกลายเป็นภาระโดยไม่รู้ตัว เพราะหมึก CIJ หรือ TTO มีราคาค่อนข้างสูง และยังมีค่าใช้จ่ายด้านตัวทำละลาย น้ำยาทำความสะอาด และอะไหล่สิ้นเปลืองที่เพิ่มเข้ามาอีก โรงงานผลิตเครื่องดื่มและบรรจุภัณฑ์น้ำดื่ม ที่ต้องพิมพ์วันที่ผลิตบนขวดนับหมื่นใบต่อวัน หากยังใช้หมึก ต้นทุนรายเดือนอาจสูงถึงหลายหมื่นบาท ในขณะที่เลเซอร์ใช้เพียงไฟฟ้าจึงสามารถช่วยลดต้นทุนได้ทันที
2. งานพิมพ์มีปัญหาเรื่องความคมชัด
ข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการต้องอ่านได้อย่างชัดเจน แต่เครื่องพิมพ์วันที่แบบหมึกมักเจอปัญหาหมึกเลอะ ซีดจาง หรือเลือนหายเมื่อโดนความชื้น ความร้อน หรือการเสียดสี ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์สินค้าและอาจทำให้เกิดการร้องเรียนหรือการคืนสินค้าได้
โดยส่วนใหญ่สินค้าแช่เย็นและแช่แข็ง เช่น อาหารพร้อมรับประทาน ที่บรรจุภัณฑ์อาจเจอน้ำค้างและความชื้นสูงจะทำให้หมึกซีดจางง่ายมากกว่า แต่ถ้าใช้เครื่องพิมพ์เลเซอร์จะพิมพ์เป็นรอยถาวร มั่นใจได้ว่าข้อมูลยังคงชัดเจนเสมอ
3. ใช้วัสดุหลากหลายมากขึ้น
บรรจุภัณฑ์ยุคใหม่ไม่ได้มีแค่กล่องกระดาษหรือขวดพลาสติก แต่ยังมีฟิล์มใส อลูมิเนียม ซองฟอยล์ แก้ว ไปจนถึงวัสดุรีไซเคิล หากคุณต้องเปลี่ยนการตั้งค่าเครื่องพิมพ์บ่อย ๆ หรือเจอปัญหาหมึกไม่ติดบนบางวัสดุ นั่นคือสัญญาณว่าเครื่องพิมพ์หมึกไม่ตอบโจทย์แล้ว ยกตัวอย่างเช่น โรงงานผลิตอาหารขบเคี้ยวที่ใช้ซองฟอยล์และซองพลาสติกชนิดต่างๆ การใช้งานเครื่องพิมพ์เลเซอร์จะสามารถพิมพ์ได้ทั้งบนฟอยล์เงา พลาสติกใส หรือแม้แต่กล่องกระดาษ โดยไม่ต้องเปลี่ยนหมึกหรือหัวพิมพ์
4. ต้องการลดของเสียและหยุดการผลิตให้น้อยที่สุด
เครื่องพิมพ์หมึกมักต้องหยุดทำงานเพื่อเติมหมึก บำรุงรักษา หรือแก้ปัญหาหัวพ่นหมึกพิมพ์อุดตัน ซึ่งการหยุดสายการผลิตแม้เพียงไม่กี่นาทีอาจสร้างต้นทุนที่สูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว หากธุรกิจของคุณต้องการเพิ่มความต่อเนื่องของการผลิต เครื่องพิมพ์เลเซอร์คือคำตอบ เช่น โรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกและขวด PET ที่ต้องผลิตต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง การหยุดเครื่องบ่อยๆ เพื่อบำรุงรักษาคือการสูญเสียโอกาสในการผลิต แต่เครื่องพิมพ์เลเซอร์ช่วยให้สายการผลิตทำงานได้ต่อเนื่องยาวนาน
5. ความต้องการด้านมาตรฐานความปลอดภัยและการป้องกันการปลอมแปลงสูงขึ้น
หลายอุตสาหกรรม เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ยา และเครื่องสำอาง ต้องการมาตรฐานการพิมพ์ที่ปลอดภัย ไม่มีสารเคมีตกค้าง เครื่องพิมพ์เลเซอร์ตอบโจทย์ตรงนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ใช้หมึกและตัวทำละลายที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โรงงานยาหรืออาหารเสริม ที่ต้องการรหัส Data Matrix หรือ QR Code เพื่อการตรวจสอบย้อนกลับ หากพิมพ์ด้วยหมึกอาจเลือนหรือถูกปลอมแปลงได้ง่าย สามารถป้องกันได้ด้วยการใช้เครื่องพิมพ์เลเซอร์ที่ทำให้โค้ดเหล่านี้ถาวรและยากต่อการแก้ไข
6. ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ถ้าธุรกิจของคุณกำลังเติบโตและต้องเพิ่มกำลังการผลิต เครื่องพิมพ์หมึกอาจเริ่มกลายเป็นคอขวด เพราะไม่สามารถรองรับความเร็วหรือความถี่ในการใช้งานที่สูงขึ้นได้ เครื่องพิมพ์เลเซอร์ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงานพิมพ์ความเร็วสูง เช่น โรงงานผลิตเบเกอรี่และขนมขบเคี้ยว ที่ต้องพิมพ์วันที่ผลิตบนซองจำนวนมากต่อวัน เครื่องพิมพ์เลเซอร์สามารถทำงานทันกับสายพานความเร็วสูง โดยยังคงความคมชัดในทุกแพ็กเกจ
7. ต้องการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า
แม้เครื่องพิมพ์เลเซอร์จะมีต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่า แต่เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายในระยะยาวแล้วกลับคุ้มค่ากว่ามาก เนื่องจากไม่ต้องเสียเงินซื้อหมึกพิมพ์หรือตัวทำละลายทุกเดือน และการบำรุงรักษาก็น้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เหมาะกับผู้ผลิตสินค้า FMCG (Fast-Moving Consumer Goods) เช่น น้ำดื่ม ขนม หรืออาหารบรรจุห่อ ที่ต้องพิมพ์จำนวนมากทุกวัน เลเซอร์จะช่วยลดค่าใช้จ่ายต่อเดือน และยังมีทางเลือกแบบเช่าเริ่มต้นเพียง 4,500 บาท/เดือน ช่วยให้เข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น
หากธุรกิจของคุณกำลังเผชิญกับต้นทุนหมึกพิมพ์สูง งานพิมพ์ไม่คมชัด ปัญหาการหยุดเครื่อง หรือความต้องการมาตรฐานที่สูงขึ้น เครื่องพิมพ์เลเซอร์คือคำตอบ คุณควรพิจารณา 7 สัญญาณที่กล่าวมาให้ชัดเจนว่าถึงเวลาที่คุณควรอัปเกรดจากเครื่องพิมพ์หมึกแบบเดิมๆ มาสู่เทคโนโลยีเลเซอร์แล้วหรือยัง
การลงทุนในเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ไม่เพียงช่วยให้ได้งานพิมพ์ที่คมชัดและถาวร แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว ลดความเสี่ยงจากปัญหาคุณภาพ และยกระดับความน่าเชื่อถือของสินค้า
https://www.facebook.com/photo/?fbid=802700942349502&set=a.168688042417465
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
Line : @docod
โทร : 0636944444
