หนึ่งสิ่งสำคัญสำหรับผู้บริโภคเวลาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์คือการดูวันหมดอายุของสิ่งนั้น ซึ่งหากวันหมดอายุพิมพ์ไม่ชัดเจนอาจส่งผลเสียต่อธุรกิจได้ แต่ด้วยเทคโนโลยีของการพิมพ์วันที่ทำให้มีการใช้เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ ซึ่งเครื่องพิมพ์วันหมดอายุระบบเลเซอร์สามารถใช้ได้กับหลายพื้นผิวรวมถึงบรรจุภัณฑ์พลาสติก
พลาสติกสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท โดยตามหลักจะถูกแบ่งออกเป็น 7 ประเภทซึ่งไม่ได้แปลว่าพลาสติกทั้ง 7 ประเภทนี้จะสามารถใช้เครื่องพิมพ์วันหมดอายุแบบเลเซอร์ได้ เนื่องจากแต่ละประเภทมีองค์ประกอบทางเคมีที่แตกต่างกันไป ทำให้เหลือพลาสติก 5 ประเภทที่สามารถใช้ได้ ได้แก่
1. Polyethylene ( PE )
ถูกแบ่งออกเป็นสองประเภทย่อย คือ LDPE (Low Density Polyethylene) และ HDPE (High Density Polyethylene) ซึ่งพลาสติกประเภทนี้จะพบบ่อยมากในชีวิตประจำวัน เนื่องจากถูกนำไปใช้เป็น ขวดนม บรรจุภัณฑ์ครัวเรือน หรือ ถุงพลาสติก เป็นต้น
2. Polyethylene Terephthalate ( PET )
ส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร แต่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้ซ้ำ ยกตัวอย่างเช่น ขวดน้ำ กล่อง และ วัสดุ
3.Polycarbonate ( PC )
พลาสติกชนิดนี้จะมีความทนทานสูง ทนความร้อนและเป็นฉนวนกันไฟฟ้าชั้นดี สินค้าที่ใช้พลาสติกนี้มักจะเป็น แผ่นซีดี แว่นตานิรภัย หรือ ส่วนประกอบของรถยนต์
4. Polyamide ( PA )
หรือเรียกอีกอย่างว่า Nylon ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับหลายสิ่งเนื่องจากคุณสมบัติของพลาสติกชนิดนี้ค่อนข้างจะครอบคลุมหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น การทนต่อรอยขีดข่วนและสารเคมี มีความยืดหยุ่นสูงและทนความร้อนได้ถึง 150 องศาเซลเซียส ตัวอย่างสิ่งของที่ใช้ คือ เชือกไนล่อน ชุดแต่งกาย สายเคเบิ้ล เป็นต้น
5. ABS
เป็นพลาสติกที่มีจุดหลอมเหลวสูงและทนต่อแรงอัดและสภาพอากาศ อีกทั้งยังสามารถนำไปขึ้นรูปด้วยเครื่องพิมพ์ 3D ได้เช่นกัน สินค้าส่วนใหญ่จะเป็น ของเล่น หมวกกันน็อค หรือ อุปกรณ์กีฬา เป็นต้น
การใช้เครื่องพิมพ์วันที่ระบบ Laser สามารถทำให้คุณมั่นใจได้ว่าวันหมดอายุหรือสัญลักษณ์ต่างๆ บนผลิตภัณฑ์ของคุณจะไม่เลือนลาง